5 เหตุผล ที่บริษัทควรฝึกอบรมด้านสติ: Mindfulness in Organization

บุคคลที่มีชื่อเสียงในหลากหลายวงการ เช่น โอปราห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey), สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) และ เคที เพร์รี (Katy Perry) ล้วนให้ความสนใจในเรื่องสติและสมาธิ จากงานวิจัย (Nate Klemp, 2019) พบว่า สติและสมาธิไม่ใช่เพียงส่งดีต่อระดับบุคคล เช่น ทำให้เรารู้สึกดี ช่วยให้ใบหน้าเปร่งประกาย หรือมีแสงออร่าแต่เพียงเท่านั้น แต่สติและสมาธิยังส่งผลดีต่อระดับองค์กรด้วย โดยแบ่งได้เป็น 5 ข้อ ดังต่อไปนี้

1. สติช่วยลดความเครียดและป้องกันอาการหมดไฟ

ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านพื้นฐาน ถึงวันนี้เราสามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันผ่านซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องจิ๋วที่พกพาติดตัวได้ เราสามารถสื่อสารไปได้ทั่วโลกในทันที เกิดความสะดวกรวดเร็ว โลกถูกเชื่อมต่อกันมากขึ้น ความท้าทายใหม่ในปัจจุบัน คือ การมีชีวิตอยู่ในโหมด “Always on” ที่ต้องเปิดรับสิ่งกระตุ้นความเครียดตลอดเวลา พร้อมทั้งต้องเผชิญกับการแทรกแซงทางด้านเทคโนโลยีอีกด้วย ในสภาวการณ์เช่นนี้ สติสามารถเข้ามาช่วยปรับสมดุลให้กับเราได้ มีการศึกษาจำนวนมากพบว่า การฝึกสติช่วยลดความเครียดให้กับพนักงาน รวมถึงช่วยสร้างสมรรถนะที่อาจจะสำคัญที่สุดในยุคดิจิตอล นั่นก็คือ ความสามารถในการฟื้นคืนพลังขึ้นมาใหม่ (Resilience) เพื่อป้องกันอาการหมดไฟ (Burnout) นอกจากนี้ การศึกษาล่าสุดยังพบว่า การฝึกสติ ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องส่วนบุคคล นักวิจัยพบว่าผู้จัดการที่ได้ฝึกสติ จะมีอัตราของความอ่อนล้าทางอารมณ์ลดลง

2. สติช่วยลดอัตราการลาออกที่ไม่พึงประสงค์

การลาออกที่ไม่พึงประสงค์ (Unwanted Turnover) เป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจ องค์กรต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่คนเก่าออกคนใหม่เข้าในอัตราที่รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งทำให้สัดส่วนของพนักงานชั่วคราวมีเพิ่มมากขึ้นในองค์กร ด้วยเหตุนี้ เราจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อเก็บรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้กับองค์กรให้นานขึ้น จากการศึกษาล่าสุดพบว่า มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างการฝึกสติในองค์กรกับการเก็บรักษาพนักงาน (Employee Retention) โดยองค์กรที่มีการฝึกสติ ระดับพันธสัญญาของพนักงานต่อนายจ้างนั้นมีสูงกว่า นั่นหมายถึง องค์กรที่มีการฝึกสติพนักงานจะคงอยู่กับองค์กรได้นานกว่า

3. สติช่วยเพิ่มผลผลิตและความผูกพันในองค์กร

การฝึกสติส่งผลอย่างมากต่อการช่วยเพิ่มผลผลิต จากงานวิจัยของ Aikens, Astin, Pelletier และคณะ ในหัวข้อ Mindfulness Goes to Work: Impact of an Online Workplace Intervention พบว่าโปรแกรมฝึกสติในที่ทำงาน ช่วยให้เกิดพลังความมุ่งมั่น และ เพิ่มระดับความผูกพันในงานที่ทำอยู่

4. สติช่วยดึงดูดคนเก่งให้อยากมาทำงานในองค์กร

โปรแกรมการฝึกสติในองค์กร แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจขององค์กรต่อตัวพนักงาน องค์กรชั้นนำอย่าง Google, Nike, Apple ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ลงทุนอย่างมากในโปรแกรมการฝึกสติภายในองค์กร และนี่เป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าคนเก่ง (Top Talent) จะเลือกทำงานในองค์กรที่ใส่ใจต่อการเป็นอยู่ที่ดี ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาชีวิตและความสำเร็จของพนักงาน มากกว่าองค์กรที่ละเลยความใส่ใจในเรื่องนี้

5. สติช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์และนวัตกรรม

การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในงานและการแทรกแซงทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้ความสร้างสรรค์และนวัตกรรมกลายเป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นทางธุรกิจ นักวิจัยจาก Erasmus University in Rotterdam ประเทศเนเธอแลนด์ พบว่าการฝึกสติเพียงไม่กี่นาที นำไปสู่การเพิ่มความคิดเชิงขยายออก (Divergent Thinking) ได้อย่างมีนัยสำคัญ กุญแจสำคัญของงานวิจัยนี้ คือ การลงทุนด้านสติในองค์กร ตลอดไปจนถึงการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) การเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) และความสามารถในการฟื้นคืนพลังขึ้นมาใหม่ (Resilience) ของพนักงาน

            ทั้งหมดนี้ คือ ประโยชน์ของสติการฝึกสติในองค์กร ที่จะช่วยให้องค์กรแน่ใจได้ว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน เพื่อให้มีการฝึกฝนสติอบรมขึ้นในองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดความเครียดและป้องกันอาการหมดไฟ ลดอัตราการลาออกที่ไม่พึงประสงค์ เพิ่มผลผลิตและความผูกพันในองค์กร ดึงดูดคนเก่งให้อยากมาทำงานในองค์กร และช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์และนวัตกรรมให้กับองค์กร

หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง

Reference: Nate Klemp. (2019, Octorber). 5 Reasons Your Company Should be Investing in Mindfulness Training. Retrieved from Inc.com

เขียนโดย : รัน ธีรัญญ์

Comments

comments